8 ปีแห่งวิวัฒนาการของเทคโนโลยี
ในแต่ละเจเนเรชันของ T-Series ล้วนต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้า โดยสร้างขึ้นเทคโนโลยี วัสดุ และจุดเด่น ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากทัวร์ พร้อมนวัตกรรมล่าสุดที่สามารถเปลี่ยนแปลงเกมกอล์ฟ
Max Impact Technology ดั้งเดิมนับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ เมื่อ T-Series เปิดตัวเป็นครั้งแรก และการพัฒนาไม่หยุดอยู่แค่นั้น ทุกเจเนเรชันที่ตามมาล้วนยกระดับเทคโนโลยีพื้นฐานนี้ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านการออกแบบ โครงสร้าง และตำแหน่งการวาง เพื่อยกระดับสมรรถนะของเหล็กให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้วยการใช้ทังสเตนความหนาแน่นสูง ช่วยยกระดับความรู้สึกในการตี และการชดเชยความผิดพลาด—แต่นั่นยังไม่เพียงพอ ทุกเจเนเรชันถูกพัฒนาให้ล้ำหน้าไปอีกขั้น โดยมีการปรับปรุงวิธีการใช้ทังสเตนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการใช้กระบวนการเชื่อมแบบอากาศยานที่อุณหภูมิ 2,000 องศา เพื่อเสริมประสิทธิภาพของทังสเตนในการเข้ามามีผลเมื่อจังหวะปะทะลูก ไม่เคยเลยที่โอกาสในพัฒนาประสิทธิภาพใดที่จะถูกมองข้ามไป
เราไม่ได้สร้างนวัตกรรมเพียงเพราะอยากสร้างนวัตกรรม แต่เป็นการพัฒนาต่อยอดอย่างมีขั้นตอนจากสิ่งที่ดีอยู่แล้ว เพื่อทำให้แต่ละรุ่นดีขึ้นกว่าเดิม เป้าหมายมีเพียงหนึ่งเดียว—เพื่อให้ในสิ่งที่นักกอล์ฟต้องการมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้ T-Series รุ่นใหม่ แสดงให้เห็นว่าการมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งสามารถพาเราไปได้ไกลแค่ไหน ในการค้นหาทุกความได้เปรียบที่เป็นไปได้ T-Series ก้าวข้ามจากการสร้างแค่เหล็กแต่ละรุ่นที่มีลักษณะประสิทธิภาพเฉพาะตัว มาเป็นการปรับแต่งในแต่ละองศาอย่างละเอียด เพื่อมอบสิ่งที่นักกอล์ฟต้องการอย่างแท้จริง วิธีที่คุณใช้เหล็ก 6 นั้นแตกต่างจากการใช้เหล็ก 9 อย่างมาก — และการออกแบบ T-Series รุ่นใหม่ก็สะท้อนความแตกต่างนั้น
สิ่งที่ใหม่เลยในปีนี้คือ Progressive Groove Design ซึ่งปรับองศา และรูปร่างของร่องหน้าเหล็กให้แตกต่างกันในแต่ละเบอร์ ตั้งแต่เหล็กยาวไปจนถึงเหล็กสั้น เพื่อเพิ่มความสม่ำเสมอของสปินในแต่ละองศา แทนที่จะใช้ดีไซน์เดียวกันทั้งเซ็ต นอกจากนี้ จุดศูนย์ถ่วงของเหล็กยาวยังต่ำลงอีกด้วย เพื่อช่วยให้นักกอล์ฟตีลูกลอยสูง และตกหยุดได้ดีขึ้นในเบอร์ที่ต้องการมากที่สุด ถึงแม้ความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพจะต่างกันเพียงไม่กี่มิลลิเมตร แต่ผลลัพธ์ในเกมของคุณจะเห็นได้ชัด — ทั้งการเซฟสโตรก การชนะการแข่งขัน ไปจนถึงการเล่นกอล์ฟได้สนุกขึ้น
ไลน์อัพชุดเหล็กที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยมีมา
เมื่อ T-Series รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2019 เป้าหมายชัดเจนและท้าทาย: สร้างเหล็กที่ให้ประสิทธิภาพอันเป็นเอกลักษณ์ Titleist แก่นักกอล์ฟให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อเป้าหมายนั้น แต่ละรุ่นถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการด้านประสิทธิภาพ และรูปแบบผู้เล่น โดว T100 มอบความแม่นยำระดับทัวร์, T200 เป็นเหล็กทัวร์ที่ให้ระยะไกล ในรูปทรงกะทัดรัด และ T300 ให้ความเร็ว และการชดเชยความผิดพลาด เพื่อช่วยพัฒนาการเล่น
จนถึงวันนี้ วิสัยทัศน์นี้ได้พัฒนาไปอีกขั้น T-Series รุ่นใหม่ได้เพิ่มความละเอียดในแต่ละโมเดล และเปิดทางเลือกให้หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ประสิทธิภาพเฉพาะบุคคลได้ดีกว่าที่ทุกเจเนเรชั่นก่อนหน้านี้เคยทำมาก่อน
สร้างขึ้นเพื่อการผสมผสานอย่างไร้รอยต่อ
หนึ่งในพัฒนาการที่น่าทึ่งที่สุด ในการเดินทางที่ผ่านมาของ T-Series นั้น เกิดจากแรงผลักดันของผู้เล่นในระดับทัวร์เอง สิ่งที่เริ่มต้นจากเทคโนโลยี “Game Improvement” ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มความสม่ำเสมอให้กับนักกอล์ฟสมัครเล่น กลับแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของมันในระดับสูงสุดของการแข่งขัน ความมั่นคงที่เพิ่มขึ้น มุมเหินที่ดีขึ้น และความสม่ำเสมอของรุ่นที่เน้นนักกอล์ฟทั่วไป (เช่น T200 และ T350 รุ่นแรก) กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับโปรทัวร์ในการใช้แทนเหล็กยาวแบบเดิม และเพราะ T-Series มอบประสิทธิภาพในระดับนั้นได้ โดยไม่ละทิ้งรูปลักษณ์ เสียง และความรู้สึกที่ผู้เล่นระดับสูงต้องการ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่เหล่าผู้เล่นอาชีพในการเปลี่ยนมาใช้มัน
เมื่อเข้าสู่เจเนเรชันที่ 3 ที่เปิดตัวในปี 2023 มีผู้เล่นแอมบาสเดอร์ของ Titleist ประมาณ 80% ใน PGA TOUR ประมาณ 80% ที่ลงเล่นด้วยชุดเหล็กแบบผสม โดยใช้เหล็ก Titleist อย่างน้อย 2 รุ่นร่วมกัน
ชุดเหล็ก T-Series รุ่นล่าสุดในวันนี้ คือผลลัพธ์จากความร่วมมือหลายปีระหว่างทีมวิจัยและพัฒนาของ Titleist กับนักกอล์ฟระดับทัวร์ โดยถ่ายทอดปรัชญาการออกแบบชุดเหล็กที่สามารถผสมผสานกันออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งในด้านรูปลักษณ์ และการใช้งาน แต่ละรุ่นใน T-Series ใหม่ได้รับการออกแบบให้ทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ทั้งในแง่ของหน้าตา และประสิทธิภาพ
ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้รุ่นเดียวหรือเลือกผสมหลายรุ่นเข้าด้วยกัน ชุดเหล็ก T-Series จะมอบประสิทธิภาพ ความรู้สึก และรูปลักษณ์ที่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียว นี่คือผลลัพธ์จากความมุ่งมั่นพัฒนามาตลอด 4 เจเนเรชัน เพื่อยกระดับเกมของคุณ
จองเวลาฟิตติ้ง เพื่อค้นหาชุดเหล็กที่เหมาะกับเกมของคุณมากที่สุด