ร่อง TX4 ถูกตรวจสอบร่อง 100% การการกลึงที่หน้าเว็ดจ์แบบใหม่ เป็นเส้นตรงขนานกับแนวร่อง ทำให้ขอบร่องคมอย่างสม่ำเสมอยิ่งขึ้น และค่าเบี่ยงเบนในการผลิตต่ำลง เป็นผลให้สร้างสปินได้สูงขึ้น

เว็ดจ์ที่มีองศาหน้าไม้ต่ำ (46°-54°) ออกแบบร่องให้แคบ และลึกกว่า เว็ดจ์ที่มีองศาหน้าไม้สูง (56°-62°) มีร่องกว้างกว่า ด้วยการออกแบบร่องที่แตกต่างกันนี้ ทำให้ลูกกอล์ฟสามารถสัมผัสกับขอบร่องได้ดีที่สุด เพื่อให้สร้างสปินได้สูงสุด 

เว็ดจ์ Vokey Design SM6 มีการให้ความร้อนที่หน้าเว็ดจ์ เพื่อทำให้ร่องมีความคงทนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ทำให้เว็ดจ์ร่นนี้ ให้ทั้งประสิทธิภาพที่เหนือกว่า และความทนทานที่มากกว่า

เราทดสอบเว็ดจ์ที่ผ่านการออกรอบมาแล้ว 125 รอบ, 75 รอบ และเว็ดจ์ใหม่ ที่ร่องยังไม่ผ่านการใช้งาน

125 รอบ:
มุมเหิน 35° | สปิน 6500 RPM | ลูกวิ่ง 24 ฟุต

75 รอบ:
มุมเหิน 34° | สปิน 7400 RPM | ลูกวิ่ง 18 ฟุต

ร่องใหม่:
มุมเหิน 33° | สปิน 8500 RPM | ลูกวิ่ง 10 ฟุต

นักกอล์ฟต้องใช้การเว็ดจ์ ในสภาพสนามที่แตกต่างกันอยู่เสมอ ทำให้ร่องหน้าเว็ดจ์สึกหรอไปเรื่อยๆตามการใช้งาน นักกอล์ฟทุกคนควรตรวจสอบเว็ดจ์ และร่องเว็ดจ์ของตนเอง หลังจากใช้ออกรอบไปแล้ว 75 รอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเว็ดจ์ที่คุณใช้ยังสามารถสร้างสปินที่ให้ประสิทธิภาพในการเล่นสูงสุด

สาเหตุหลัก ที่ทำให้ร่องเว็ดจ์สึกหรอ:

• การฝึกซ้อม และออกรอบทั่วไป ทำให้ร่องเว็ดจ์สึกหรอ ตามปกตื
  
• การตีในทราย ทำให้ร่องเว็ดจ์ ปะทะกับทราย และเศษเห็น
• การตีในไลน์ที่ไม่ดี ในรอยไดว้อท การตีไปบนลูกกอล์ฟที่มี เศษดิน หิน ทรายที่ติดอยู่กับลูกกอล์ฟ
• การตีกับลูกกอล์ฟในสนามซ้อม หรือการใช้ลูกกอล์ฟอื่นๆ ที่มีเปลือกแข็ง

เว็ดจ์ของคุณอาจยังคงดูดี แต่คุณไม่อาจจะมั่นใจได้ว่า มันยังคงสร้างสปินได้สูงสุดอยู่ คุณควรตรวจสอบร่องเว็ดจ์ของคุณ หลังจากใช้ออกรอบไปแล้ว 75 รอบ เริ่มต้นดูที่สภาพภายนอกโดยรวมของเว็ดจ์ และร่อง ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าเว็ดจ์ของคุณยังคงสร้างสปินได้ดีอยู่หรือไม่ ไปพบการทีมทำคลับฟิตติ้งของ Titleist เพื่อประเมินผลทั้งด้านมุมเหิน สปิน และระยะวิ่งของลูก หลังตกลงพื้น เพื่อให้คุณมั่นใจว่า เว็ดจ์ที่คุณใช้อยู่ ในประสิทธิภาพในการเล่นดีที่สุด